Report
July 7, 2025
นักลงทุนกำไรเกิน 3 หมื่นล้านบาท! แต่เทขายเมื่อไหร่?

นักลงทุนกำไรเกิน 3 หมื่นล้านบาท! แต่เทขายกี่โมง?

🧵 นักเทรดกำไรทะลุ 3 หมื่นล้านบาทแล้ว!

แต่ทำไมถึงยังไม่มีแรงขาย? และใครคือผู้ที่กำลังกุมเกมอยู่ในรอบนี้?

โพสต์นี้เราจะพาไปดูว่า…

👉 นักเทรดกำไรจริงไหม

👉 ใครยัง HODL อยู่

👉 และถ้าราคาจะไปต่อ แรงซื้อจากไหนจะเป็นตัวดัน

1/ BTC: Market Cap vs Realized Cap

หลังจากที่ Bitcoin ฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ $107,000 ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่กลับมาอยู่ในสถานะกำไรอีกครั้ง

ถ้าอ้างอิงจากข้อมูลปัจจุบันแล้ว Market Cap อยู่ที่ $2.13T และ Realized Cap อยู่ที่ $958B ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของ Bitcoin ใน Cycle นี้นั้นมีความแข็งแกร่งมาก โดย

🟢 Market Cap +700% จาก Cycle Low

🟢 Realized Cap +200% จาก Cycle Low

Note: ​Realized Cap คือปริมาณ “เงินจริงๆ” ที่ไหลเข้ามาในสินทรัพย์ โดยการคำนวณนั้นจะคำนวณจากราคาที่ Bitcoin ถูกซื้อซึ่งแตกต่างกับ Market Cap ที่จะคำนวณด้วยราคาปัจจุบันของ Bitcoin

ทำให้หากเราต้องการดูสภาพคล่องของ Bitcoin จริงๆ Realized Cap จะเหมาะสมกว่า

2/ Bitcoin: Unrealized Profit/Loss

โดยหากเราดูที่กำไรทางบัญชีของ Bitcoin ปัจจุบันอยู่ที่ $1.2T (ล้านล้าน) แล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับช่วง All-Time High ก่อนหน้านี้เลยก็ว่าได้

3/ BTC: MVRV Ratio

แต่ถึงแม้การกำไรจะสูงขนาดนั้น แต่หากดูที่ MVRV แล้วกลับลดลงอย่างมาก โดยปัจจุบันอยู่ที่ +125% หากเทียบกับช่วง All-Time High ก่อนหน้าที่ 185% และ 177% ตามลำดับ

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ราคาจะใกล้เคียง ATH แต่ระดับของกำไรยังไม่รุนแรงเท่าเดิม แปลความหมายได้ว่าเงินทุนที่ไหลเข้าตลาดในตอนนี้นั้นเร็วกว่าราคาของ Bitcoin ที่จะขึ้นไปแล้ว




4/ Bitcoin: Net Realized Profit/Loss 

ถามว่าถ้าตลาดกำไรขนาดนั้นแล้วคนที่ Take Profit จริงๆ มากด้วยหรือเปล่า?

ตรงกันข้ามกันเลย เพราะถ้าเราดู Net Realized Profit/Loss ของ Bitcoin ปริมาณการ Take Profit เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ $800M เท่านั้นซึ่งถ้าเทียบกับ All-Time High ก่อนหน้านี้ นับว่าน้อยลงมาก

แสดงให้เห็นว่าตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะ Wait and See โดยนักลงทุนส่วนมากรอราคาย้ายไป Range ใหม่ แทนที่จะรีบ Take Profit ตอนนี้

5/ BTC: Long-Term Holder Supply

LTH Supply ได้ทำ All-Time High ใหม่ที่ 14.7M BTC ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมการถือยาวยังคงเป็นพฤติกรรมหลักของคนในตลาด

จากข้อมูลในอดีตแล้ว การที่ LTH Supply เพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาใกล้ ATH นั้นเป็นสัญญาณที่ดี แสดงว่านักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นและไม่ได้คิดจะเทขายในราคานี้

6/ BTC: Liveliness Metric

Liveliness Metric วัดความสมดุลระหว่างการใช้จ่าย (spending) กับการ HODL ซึ่งปัจจุบันยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

ในอดีต เมื่อมีการทำ ATH ใหม่ Liveliness จะมีการปรับตัวขึ้น แสดงถึงการมีการเปลี่ยนมือเพิ่มขึ้น แต่ในครั้งนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น

แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรม HODL หรือการถือยังคงเป็นสิ่งที่คนทำเป็นหลักแม้ว่าปัจจุบันราคาจะอยู่บริเวณ All-Time High แล้วก็ตาม

7/ BTC: Short-Term Holder Sell-Side Risk Ratio


Sell-Side Risk Ratio บอกว่า นักลงุทนที่ได้กำไรหรือขาดทุนนั้น เป็นปริมาณมากหรือน้อยหากเทียบกับต้นทุน


หาก Risk Ratio สูง = ขาดทุนเยอะ กำไรเยอะ ตลาดผันผวนมาก
และในทางตรงกันข้ามกันเลขที่ต่ำหมายถึง ตลาดผันผวนน้อย

โดยปัจจุบันนักลงทุนระยะสั้นก็มีการซื้อขายที่ลดลง เป็นสัญญาณของการ HODL เป็นหลักในตอนนี้

8/ BTC: Long-Term Holder Sell-Side Risk Ratio

ในทำนองเดียวกัน Long-Term Holder Sell-Side Risk Ratio ก็ได้ลดลงอย่างมาก 

การลดลงนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนระยะยาวก็ได้ลดการขายลงเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับสัญญาณอื่นๆ ที่บอกว่าการ HODL เป็นพฤติกรรมหลักของนักลงทุนในขณะนี้

9/ BTC: Stablecoin Supply Ratio Oscillator

ถึงตอนนี้เราพอประเมินตลาดได้แล้วว่า อยู่ในสถานะสร้างชุดสะสม ถัดมาเราจะประเมินแรงซื้อกัน

Stablecoin Supply Ratio (SSR) บอกแรงซื้อของ Stablecoin โดยอ้างอิงกับ Bitcoin เป็นหลัก

หากตัวเลขนี้มากแปลว่าแรงซื้อ Bitcoin ต่ำ และหากตัวเลขนี้น้อยแปลว่าแรงซื้อสูง

สิ่งที่น่าสนใจคือเมื่อเทียบกับช่วงที่ทำลาย $100K ครั้งแรก SSR ปัจจุบันอยู่ในระดับที่ดีกว่า แสดงว่าแรงซื้อของนักลงทุนได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในช่วงนี้

10/ Stablecoins: Exchange Buying Power

แรงซื้อของ Stablecoin บน Exchange ก็มีข้อมูลที่คล้ายกัน

โดยหากเทียบกับช่วง All-Time High ก่อนหน้านี้ แรงซื้อของ Stablecoin บน Exchange นั้นสูงขึ้นมาก บ่งบอกเราว่าหากมี Catalyst บางอย่างที่ผลักดันราคาขึ้น แรงซื้อเหล่านี้อาจจะส่ง Bitcoin ไปต่อได้

11/ BTC: US Spot ETF Flows

อย่างที่เราทราบว่าตลาด Cycle นี้นั้นทุนหลักเป็นเงินจากสถาบัน

เพราะฉะนั้นการประเมินว่าแรงซื้อของ Bitcoin ที่มากขึ้นหรือลดลงสามารถดูได้จาก ETF Flows

โดยในฝั่งสถาบัน US Spot Bitcoin ETFs ยังคงมีเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ย 7 วันอยู่ที่ $298M ต่อวัน

12/ บทสรุป

Bitcoin นั้นได้ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็วหลังจากลงไปถึงแนวรับบริเวณต้นทุนของนักลงทุนระยะสั้น ซึ่งสะท้อนออกมาอย่างดีว่าตลาดยังคงมีแรงซื้อที่สูง

อีกอย่างที่น่าสนใจคือแม้กำไรทางบัญชีของ Bitcoin จะสูงถึง $1.2T แต่พฤติกรรมของนักลงทุนกลับแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจถือมากกว่าการเทขายในบริเวณราคานี้ ซึ่งสะท้อนออกมาใน Indicator ต่างๆ

✅LTH Supply ทำ ATH ใหม่ที่ 14.7M BTC

✅Realized Profit ลดลงอย่างมาก

✅Liveliness Metric ยังคงแนวโน้มลดลง

✅Sell-Side Risk Ratio ลดลงทั้งในกลุ่ม STH และ LTH

ในขณะ Demand ในตลาดยังคงแข็งแรง โดยเฉพาะจากกลุ่มสถาบันผ่าน ETF และแรงซื้อของ Stablecoin ที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งบน On-Chain และ Exchange


เพราะเหตุการณ์หลังจากนี้อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดว่าจะเป็นการพักตัวเพื่อไปต่อ หรือการ Form Local Top

สำหรับแนวรับที่สำคัญ บริเวณนี้อยู่ที่ $98,300 (STH Cost Basis) และสำหรับแนวต้านที่สำคัญอยู่ที่บริเวณ $110,000-$115,000

.

ทั้งนี้การลงทุนหรือการเข้าซื้อนั้นควรจะใช้ปัจจัยรวมถึงแนวทางอื่นๆ ในการวิเคราะห์ประกอบด้วย เพื่อการประเมินตลาดได้อย่างครบถ้วนและรอบด้านมากยิ่งขึ้น ข้อมูล On-Chain เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ตลาดเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก Glassnode

ดาวน์โหลด
DOWNLOAD FOR FREE!
Pongporn W.

Research ที่เกี่ยวข้อง

Report
Bitcoin All-time High! ย่อเพื่อลงหรือขึ้นต่อ?
Pongporn W.
October 10, 2025
Report
จาก To The Moon สู่ To The หลุม ตลาดเองไงต่อ
Pongporn W.
September 29, 2025
Report
Bitcoin
การใช้ Bitcoin เป็นทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ขององค์กร พร้อมกรณีศึกษาและบทวิเคราะห์เสริมเกี่ยวกับ Ethereum
Research team
August 21, 2025